แชร์

RAM ROM คืออะไรและปริมาณเท่าไหร่ที่เหมาะกับเรา

อัพเดทล่าสุด: 27 พ.ย. 2024
8202 ผู้เข้าชม

RAM และ ROM ในมือถือคืออะไร? เข้าใจความสำคัญของหน่วยความจำ พร้อมคำแนะนำเลือกมือถือที่เหมาะกับคุณ

RAM และ ROM ในมือถือคืออะไร?

1. RAM (Random Access Memory):
RAM เป็นหน่วยความจำชั่วคราวที่ช่วยให้มือถือสามารถทำงานหลายอย่างพร้อมกันได้อย่างรวดเร็ว เช่น เปิดแอปพลิเคชันหลายแอปพร้อมกัน หรือเล่นเกมที่ต้องใช้กราฟิกสูง

หน้าที่:
-เก็บข้อมูลที่ระบบหรือแอปพลิเคชันกำลังใช้งานอยู่
-ลบข้อมูลเมื่อปิดแอปหรือปิดเครื่อง


ผลต่อการใช้งาน:
RAM ที่มากขึ้นช่วยให้มือถือทำงานเร็วขึ้นและไม่สะดุดเมื่อเปิดหลายแอป

2. ROM (Read-Only Memory):
ROM ในมือถือหมายถึงพื้นที่เก็บข้อมูลถาวร เช่น ระบบปฏิบัติการ แอปพลิเคชัน และไฟล์ส่วนตัว (รูปภาพ วิดีโอ และเอกสาร)

หน้าที่:
-เก็บข้อมูลที่คงอยู่แม้ปิดเครื่อง
-รองรับการติดตั้งแอปพลิเคชันและเก็บไฟล์ต่าง ๆ


ความจุ ROM:
มักจะถูกเรียกเป็น "Storage" เช่น 64GB, 128GB หรือ 256GB

ความสำคัญของ RAM และ ROM ในการเลือกมือถือ


RAM ที่เหมาะสม:
 4GB: เพียงพอสำหรับการใช้งานทั่วไป เช่น โซเชียลมีเดียและการท่องเว็บ
 6GB - 8GB: เหมาะสำหรับการเล่นเกมและการใช้งานหลายแอปพร้อมกัน
 12GB ขึ้นไป: เหมาะสำหรับผู้ใช้ระดับสูง เช่น งานกราฟิกหรือการตัดต่อวิดีโอ

 

ROM ที่เหมาะสม:
 64GB - 128GB: สำหรับผู้ที่ถ่ายรูป วิดีโอ หรือใช้แอปพลิเคชันพื้นฐาน
 256GB - 512GB: สำหรับผู้ที่มีไฟล์ขนาดใหญ่ เช่น วิดีโอ 4K หรือแอปพลิเคชันเกมจำนวนมาก

การเลือก RAM และ ROM ที่เหมาะสมขึ้นอยู่กับพฤติกรรมและความต้องการในการใช้งานมือถือของคุณ

โดยสามารถประเมินได้จากปัจจัยดังนี้:

1. ลักษณะการใช้งานของคุณ:
ผู้ใช้งานทั่วไป (Social Media/แอปพื้นฐาน):
RAM: 4GB - 6GB
ROM: 64GB - 128GB
เหมาะสำหรับคนที่ใช้มือถือเพียงแค่เล่น Facebook, LINE, YouTube และแอปทั่วไป
ผู้ใช้งานมัลติทาสก์ (เล่นเกม/ทำงานหลายแอป):
RAM: 8GB - 12GB
เพื่อให้มือถือสามารถสลับแอปได้เร็ว ไม่สะดุด
ROM: 128GB - 256GB
สำหรับการจัดเก็บแอป เกม และไฟล์งาน
ผู้ใช้งานระดับสูง (สร้างคอนเทนต์/เกมหนัก):
RAM: 12GB ขึ้นไป
เพื่อรองรับการทำงานหนัก เช่น ตัดต่อวิดีโอหรือเล่นเกมกราฟิกสูง
ROM: 256GB - 512GB หรือมากกว่า
สำหรับเก็บวิดีโอ 4K, แอปพลิเคชันขนาดใหญ่ และข้อมูลจำนวนมาก

2. ประเมินจากพฤติกรรมการจัดเก็บข้อมูล:
ถ่ายรูป/วิดีโอบ่อย: ต้องการ ROM มากกว่า 128GB หรือมีฟีเจอร์เพิ่ม microSD
ใช้แอปเยอะ: ให้เลือก RAM 8GB ขึ้นไป เพราะแอปพลิเคชันบางตัวกิน RAM มาก

3. เช็คการใช้งานปัจจุบัน:
บน Android: ไปที่ Settings > About Phone > Storage ดูว่าใช้พื้นที่ ROM ไปเท่าไหร่
เปิด Developer Options (หากยังไม่เปิดให้กดที่ Build Number 7 ครั้ง) และดู Memory Usage
บน iPhone: ไปที่ Settings > General > iPhone Storage ดูว่าใกล้เต็มหรือไม่

4. การลงทุนในอนาคต
หากคุณวางแผนใช้มือถือเครื่องเดิมนาน 3-5 ปี:
เลือก RAM สูงกว่า 8GB และ ROM อย่างน้อย 256GB เพื่อรองรับการอัปเดตแอปและระบบปฏิบัติการใหม่

สรุป:
ตรวจสอบพฤติกรรมการใช้งานและประเมินว่า RAM และ ROM ในมือถือปัจจุบันเพียงพอหรือไม่ หากมีคำถามเพิ่มเติมหรือสนใจเปรียบเทียบรุ่นมือถือ สามารถให้ข้อมูลเพิ่มเติมได้เลย!


บทความที่เกี่ยวข้อง
วิธีเลือกอุปกรณ์ ICT สำหรับโรงเรียน และหน่วยงานภาครัฐ
สินค้าไอทีราคากลาง ICT สำหรับหน่วยงานรัฐ ที่มี คุณสมบัติตรงตามมาตรฐาน ICT Spec ปีล่าสุด (2568) WPN Mobile พร้อมเอกสารครบ จัดส่งทั่วไทย
16 ก.ค. 2025
ความถี่สัญญาณมีกี่แบบและคืออะไรบ้าง
รู้หรือไม่? ความเร็วเน็ตมือถือไม่ได้ขึ้นอยู่กับแค่แพ็กเกจที่คุณใช้แต่ “คลื่นความถี่” ก็มีผลอย่างมาก!
8 ก.ค. 2025
ถ้างบน้อยใช้ซิมรายปีดีจริงไหม
ถ้าคุณงบน้อยและกำลังตัดสินใจว่าการใช้ซิมรายปีคือสิ่งที่ตอบโจทย์หรือไม่ ต้องลองอ่านบทความนี้ดูค่ะ
4 ก.ค. 2025
icon-messenger
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้
เปรียบเทียบสินค้า
0/4
ลบทั้งหมด
เปรียบเทียบ