iPhone14 Pro/Pro Max มีอะไรใหม่บ้าง

วางจำหน่ายอย่างเป็นทางการแล้วในประเทศไทยสำหรับซีรีส์ iPhone 14 หลังจากที่รอมานาน มีสเปคอะไรเพิ่มมาใหม่บ้าง ไปดูกันน

- ชิป A16 Bionic
CPU แบบ 6‑core ซึ่งมีคอร์ด้านประสิทธิภาพ 2 คอร์
และคอร์ด้านประหยัดพลังงาน 4 คอร์ GPU แบบ 5‑core Neural Engine แบบ 16‑core

- เล่นวิดีโอได้นานสูงสุด 29 ชม.
แบตเตอรี่ iPhone 14 Pro Max เล่นวิดีโอได้นานสูงสุด 29 ชั่วโมง

- มี crash Detection พร้อมโทรขอความช่วยเหลือ
Crash Detection ที่สามารถตรวจจับเหตุรถชนอย่างรุนแรงได้ เมื่อมีการเกิดอุบัติเหตุรถชน หลังจากตรวจจับได้ หากผู้ใช้ไม่ตอบสนองภายใน 10 วินาที ระบบจะโทรหาบริการฉุกเฉินพร้อมกับแจ้งเตือนผู้ที่อยู่ในรายชื่อติดต่อฉุกเฉินให้เรา

- หน้าจอ Super Retina XDR
ใช้จอภาพเป็น Super Retina XDR แบบ OLED มาพร้อม เทคโนโลยี ProMotion ที่มีอัตรารีเฟรชแบบปรับได้สูงสุดที่ 120Hz

 ไอโฟน 14 โปร หน้าจอความละเอียด 2,556 x 1,179 Pixel ที่ 460 ppi
 ไอโฟน 14 โปรแม็กซ์ หน้าจอความละเอียด 2,796 x 1,290 Pixel ที่ 460 ppi

- กล้องหลัก 48MP ถ่ายภาพแสงน้อยได้ดีขึ้น 3 เท่า
iPhone 14 Pro Series ได้รับการอัปเกรดกล้องหลักให้มีความละเอียดเป็น 48MP พร้อมเทคโนโลยี Quad Pixel ที่จะรวมพิกเซล 4 เม็ดเล็กให้กลายเป็น 1 เม็ดใหญ่ ช่วยให้ถ่ายภาพในที่แสงน้อยได้ดีขึ้น นอกจากนี้กล้องหลักยังสามารถซูมได้ที่ระดับ 2x และยังมีกล้อง Telephoto ความละเอียด 12MP ซูม Optical 3x กับกล้อง Ultrawide 12MP ด้วย

- ถ่ายวิดีโอแบบ 4K HDR ที่ 24fps
สามารถถ่ายวิดีโอได้ที่ความละเอียดสูงสุด 4K 60fps แถมคราวนี้โหมดภาพยนตร์ยังถ่ายได้สูงสุดถึง 4K HDR 30fps อีกต่างหาก

- มี Active Mode ลดการสันตอนถ่ายวิดีโอ
ฟีเจอร์ Action Mode ที่จะช่วยเพิ่มความนิ่งและความสมูทให้กับการถ่ายวิดีโอมากกว่าเดิมโดยไม่ต้องใช้อุปกรณ์เสริมช่วยเลย

- บันทึกภาพและวิดีโอแบบ ProRAW หรือ Dolby Vision HDR ได้
รุ่น Pro Max รองรับการถ่าย Apple ProRAW ถ่ายภาพมาโครได้ ถ่ายภาพบุคคลโหมดกลางคืน แฟลช True Tone ที่ปรับตามสภาวะแสง ซูมแบบออฟติคัล 6 เท่า ซูมดิจิทัล 15 เท่า และระบบป้องกันภาพสั่นไหวแบบออปติคัล รุ่นที่ 2

- รอยบากพร้อมลูกเล่นใหม่ "Dynamic Island"
รุ่นโปรนั้น ได้รับการเปลี่ยนรอยบากนี้ให้เป็น Notch แบบแคปซูล ที่เรียกว่า Dynamic Island ซึ่งทำหน้าที่มากกว่าเป็นส่วนของกล้องหน้าและเซ็นเซอร์ แต่ยังเป็นการแสดงผลต่างๆ บริเวณโดยรอบของกล้องอีกด้วย ถือว่าทำออกมาได้แนบเนียนและน่าใช้งานเป็นอย่างมาก

สำหรับใครที่ยังลังเลอยู่สามารถใช้ข้อมูลด้านบนเป็นตัวช่วยตัดสินใจกันได้เลยนะคะ